หมวกนิรภัย
หมวกนิรภัยหรือหมวกเซฟตี้ เป็นอุปกรณื PPE ช่วยป้องกันศีรษะของผู้ปฏิบัติงาน ผู้ปฏิบัติงานจึงควรสวมใส่หมวกนิรภัยตลอดเวลาการทำงาน
หมวกนิรภัยหรือหมวกเซฟตี้ เป็นอุปกรณื PPE ช่วยป้องกันศีรษะของผู้ปฏิบัติงาน ผู้ปฏิบัติงานจึงควรสวมใส่หมวกนิรภัยตลอดเวลาการทำงาน
แว่นตาเซฟตี้หรือแว่นตานิรภัยเป็นอุปกรณ์ PPE ช่วยป้องกันดวงตาของผู้ปฏิบัติงาน แว่นตาเซฟตี้แบ่งเป็น 2 ประเภทตามลักษณะงาน คือ ป้องกันวัสดุของแข็งกระเด็นเข้าสู่ดวงตา ตัวแว่นจะมีแผ่นกระบังด้านข้าง และงานป้องกันสารเคมี มีลักษณะเป็นครอบตา เพื่อป้องกันของเหลว
ปลั๊กอุดหู (Ear Plug) และ ที่ครอบหู (Earmuff) คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับลดเสียงรบกวน (NRR) เพื่อป้องกันหูจากเสียงที่ดังเกินไป จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติงานในบริเวณที่มีเสียงดังเกินปกติเป็นเวลานานๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักร งานก่อสร้าง
หน้ากากเป็นอุปกรณ์ PPE ช่วยป้องกันระบบหายใจ งานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี,สารระเหย และฝุ่น จำเป็นต้องสวมหน้ากากป้องกันสารเคมีในการทำงาน และต้องหมั่นตรวจสอบสภาพไส้กรอง เมื่อมีกลิ่นเข้า ต้องรีบเปลี่ยนไส้กรองใหม่ทันที
ถุงมือนิรภัยเป็นอุปกรณ์ PPE ชนิดหนึ่งซึ่งจะช่วยปกป้องมือของผู้ปฏิบัติงาน ถุงมือนิรภัยแบ่งประเภทตามลักษณะงานที่ต้องใช้ เช่น ถุงมือป้องกันสารเคมี ถุงมือกันบาด ถุงมือกันความร้อน งานต่างๆย่อมมีอันตรายที่แตกต่างกัน จึงต้องเลือกใช้ถุงมือนิรภัยให้ถูกต้องตามลักษณะงาน ถุงมือป้องกันสารเคมี มีหลายประเภท เช่น ถุงมือป้องกันสารเคมีวัสดุยางไนไตรคุณภาพสูง ป้องกันสารเคมีได้ดี
รองเท้านิรภัยเป็นอุปกรณ์ PPE ที่ช่วยป้องกันเท้าของผู้ปฏิบัติงาน ในกรณีอยู่ในพื้นที่เสี่ยงของตกใส่เท้า การเหยียบของแหลมหรือของมีคม ทะลุฝ่าเท้า อุบัติเหตุดังกล่าวสามารถป้องกันได้โดยการสวมใส่รองเท้าเซฟตี้หัวเหล็ก หรือรองเท้าเซฟตี้พื้นเหล็ก
ชุดป้องกันสารเคมี ใช้สำหรับงานที่ต้องปฏิบัติงานอยู่กับสารเคมีอันตราย จึงต้องสวมใส่ชุดป้องกันสารเคมี ไม่ให้สารเคมีสัมผัสกับร่างกายผู้ปฏิบัติงาน ชุดป้องกันสารเคมี มีทั้งแบบสำหรับสารเคมีทั่วไป สามรถซักทำความสะอาดได้ และแบบชุดป้องกันสารเคมีร้ายแรง แบบใช้แล้วทิ้ง
อุปกรณ์ป้องกันการตก (Fall Protection) เป็นอุปกรณ์ช่วยป้องกันอันตรายจากงานในที่สูง เช่น การทำงานบนนั่งร้าน หรือปีนเสา ประกอบด้วยชุดกันตก (Harness) สายช่วยชีวิต (Lanyard) หรืออุปกรณ์โรยตัวบนที่สูงอื่นๆ
หน้าที่ของอุปกรณ์ล็อคคือ การป้องกันการเปิด/ใช้งานสวิทต์ ที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ปฏิบัติงาน เช่นงานซ่อมบำรุง จะต้องมีระบบตัวล็อคเบรกเกอร์ป้องกันการทำงานของเครื่องจักร และแขวนป้ายเตือนให้เรียบร้อย ซึ่งอุุปกรณ์ล็อคเพื่อความปลอดภัย และแม่กุญแจ ยี่ห้อ Master Lock มาสเตอร์ล็อค นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในอเมริกา เป็นผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ล็อคและแม่กุญแจที่ได้มาตรฐาน OSHA
คัทเตอร์นิรภัย คัทเตอร์เซฟตี้ยี่ห้อ MARTOR เป็นคัทเตอร์สำหรับงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้คัทเตอร์สำหรับกรีดกล่องกระดาษ หรือถุงวัตถุดิบ คัทเตอร์นิรภัยทุกรุ่นสามารถเก็บใบมีดได้เองเมื่อตัดชิ้นงานเสร็จ ช่วยให้ลดอุบัติเหตุจากากรถูกใบมีดบาด ใบมีดลักษณะชิันเดียว จึงไม่สามารถหักและปะปนไปกับสินค้าได้
อ่างล้างตาฉุกเฉินเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ส่งน้ำสำหรับชำระล้างการปนเปื้อนของสารเคมีที่ใบหน้า ดวงตา หรือร่างกาย โดยมีวาล์วเปิดน้ำแบบมือผลักหรือเท้าเหยีบบ แทนวาล์วก๊อกแบบทั่วไป เพื่อให้สามารถเปิดน้ำได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยทั่วไป มาตรฐาน ANSI กำหนดให้จุดติดตั้งอ่างล้างตาฉุกเฉินต้องตั้งอยู่ ในจุดที่เข้าถึงได้ด้วยการเดินภายใน 10 วินาที (ระยะประมาณ 55 ฟุต หรือ 16.5 เมตร) โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
สารเคมีอันตรายเป็นสิ่งอันตรายที่ต้องมีการจัดเก็บอย่างถูกต้อง ตู้จัดเก็บสารเคมี JUSTRITE ออกแบบให้อุณหภูมิภายในตู้ไม่เกิน 162°C (325°F) ซึ่งครอบคลุมอุณหภูมิที่ทำให้เกิดการจุดระเบิดของสารเคมีได้ 99% โดยที่บานประตู บานพับต่างๆ ยังคงปิดแนบสนิทอยู่ได้ เมื่อถูกไฟเผาเป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้มีเวลาสำหรับพนักงานได้ออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย และมีเวลาให้ระบบดับเพลิงแบบสปริงเกลอร์ได้ทำการดับเพลิงดังกล่าว (ถ้ามี)
หากมีสารเคมีหกหรือรั่วไหล ต้องใช้อุปกรณ์ดูดซับสารเคมี NEWPIG เพื่อทำความสะอาดและกักเก็บอย่างถูกต้อง ไม่ให้สารเคมีอันตรายปะปนไปทำกับน้ำเสียตามธรรมชาติ
ไฟฉายกันระเบิด PELICAN ได้รับมาตรฐานป้องกันระเบิดและไม่เกิดประกายไฟ สามารถใช้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงได้ ไฟฉายกันระเบิด PELICAN มีหลายขนาดให้เลือกใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะพิ้นที่ปฏิบัติงานของคุณ
ป้ายความปลอดภัย คือป้ายที่ใช้สัญลักษณ์ภาพหรือข้อความที่เป็นมาตรฐานสากลในการสื่อความหมายเพื่อแจ้งเตือน ห้าม หรือบังคับให้พนักงานหรือบุคคลภายนอกได้ทราบและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
อุปกรณ์งานดับเพลิงที่มีมาตรฐานรับรอง เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโรงงานและบริษัทห้างร้าน เนื่องจากตามข้อกฏหมายบังคับ อีกทั้งเราจะควรจะตรวจสอบดูแลบำรุงรักษา อุปกรณ์งานดับเพลิงให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้เสมอ
เครื่องตรวจวัดแก๊สเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการทำงานในพื้นที่อับอากาศและพื้นที่เสียงต่อก๊าซไวไฟถ้าไม่ตรวจเช็คก่อนปฏิบัติงานอาจอันตรายถึงชีวิต เครื่องตรวจวัดแก๊สมีทั้งแบบชนิดแก๊สเดี่ยวและ 4 แก๊สขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติ
ในการออกแบบและสร้างตู้นิรภัย Justrite นั้นมีวัตถุประส่งค์เพื่อให้ตู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
ตู้จัดเก็บสารเคมีได้รับการออกแบบและสร้างเพื่อจำกัดอุณหภูมิภายในให้ไม่เกิน 325 °F (162°C) เมื่อตู้ถูกเพลิงไหม้เป็นเวลา 10 นาที โดยใช้กราฟอุณหภูมิต่อเวลามาตรฐานตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานของการทดสอบอัคคีภัยของการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างอาคาร NFPA 251-1969 โดยอ้างอิงข้อกำหนดตามที่ระบุไว้ใน §1910.6 ข้อต่อและตะเข็บทั้งหมดจะต้องคงแน่น และประตูจะต้องปิดอย่างแน่นหนาในระหว่างการทดสอบด้วยไฟ และจะต้องมีข้อความระบุไว้อย่างชัดเจนบนตู้ว่า “FLAMMABLE — KEEP FIRE AWAY”
– ตู้โลหะที่สร้างขึ้นในลักษณะดังต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นไปตามข้อกำหนด ด้านล่าง ด้านบน ประตู และด้านข้างของตู้ต้องเป็นเหล็กแผ่นเบอร์ 18 เป็นอย่างน้อย และมีผนัง 2 ชั้น มีช่องอากาศขนาด 1 1/2 นิ้ว ข้อต่อจะต้องตอกย้ำ เชื่อม หรือทำให้แน่นด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน ประตูต้องมีตัวล็อคสามจุด และขอบประตูต้องยกสูงจากด้านล่างของตู้อย่างน้อย 2 นิ้ว
หมายเหตุ: กราฟเส้นโค้งอุณหภูมิต่อเวลาที่กำหนดโดย ASTM E119, UL 263 และ NFPA 251 แทบจะเหมือนกันทั้งหมด: เส้นโค้งเริ่มต้นที่ 68°F (20°C) ที่ 0 นาที และต่อเนื่องไปที่ 1000°F (537°C) ที่ เป็นเวลา 5 นาที และสำหรับตู้เซฟจะสิ้นสุดที่อุณหภูมิ 1300°F(704°C) ที่ 10 นาที โดยวัดจากด้านนอกเหนือเปลวไฟ เปลวไฟจริงที่สัมผัสตู้สามารถวัดได้ 1600°F (871°C)
ตอบ 1: ให้บุคลากรออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย 10 นาที
ตอบ 2: ให้เวลาสำหรับระบบสปริงเกอร์ (ถ้ามี) 10 นาทีในการดับไฟ
ตอบ: ในการสำรวจของเหลวไวไฟและของเหลวที่ติดไฟได้ทั่วไปบางชนิด อุณหภูมิการจุดระเบิดอัตโนมัติอยู่ระหว่าง: 347°F (175°C) สำหรับอะซีตัลดีไฮด์ ถึง 1139° F (615°C) สำหรับอะนิลีน โดยมีข้อมูลผิดปกติทางสถิติ* ของคาร์บอนไดซัลไฟด์ที่ 194°F (90°C)
ตามสถิติแล้ว อุณหภูมิ 325°F (162°C) ควรครอบคลุมอุณหภูมิจุดระเบิดอัตโนมัติที่ปลอดภัยมากกว่า 99% ของของเหลวที่ติดไฟได้และติดไฟได้ ซึ่งสมเหตุสมผลสำหรับกรอบดั้งเดิมของมาตรฐานการทดสอบที่ต้องการคือ เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวที่ติดไฟได้และติดไฟได้เก็บไว้ในตู้จัดเก็บสารเคมีไวไฟจากการถูกเพลิงไหม้เป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาที
หมายเหตุ: อุณหภูมิการจุดระเบิดอัตโนมัติโดยทั่วไปของของเหลวไวไฟและของเหลวที่ติดไฟได้: เอทานอล = 689°F น้ำมันเบนซิน = 475°F (246°C) น้ำมันเครื่องบิน = 410°F (210°C) น้ำมันก๊าด 428°F (220°C) , เมทิลแอลกอฮอล์ = 867°F (462°C) ฯลฯ…
โดยสรุป การทดสอบการเผาไหม้ตู้จัดเก็บสารเคมีเป็นแบบอนุรักษ์นิยม ซึ่งจำลองสถานการณ์กรณีที่เลวร้ายที่สุด ได้แก่
1.การทดสอบดำเนินการโดยใช้เชื้อเพลิงอัดแรงดันเพื่อให้ได้ความร้อนตามที่กำหนดในการทดสอบภายใน 10 นาที และให้ความร้อนทั้งสี่ด้านของตู้
2.ยกเว้นค่าผิดปกติทางสถิติของการจุดระเบิดอัตโนมัติ* ของคาร์บอนไดซัลไฟด์ที่อุณหภูมิ 194°F (90°C) โดยใช้อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นภายในสูงสุดที่อนุญาตคือ 325°F (162°C) แทนแบบอนุรักษ์นิยม เพื่อสอดคล้องกับอุณหภูมิการจุดระเบิดอัตโนมัติของสารไวไฟส่วนใหญ่และ ของเหลวที่ติดไฟได้
หมายเหตุ: อย่างไรก็ตาม ต้องอพยพบุคลากรทั้งหมดออกจากพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ด้วยความเร่งด่วน
* ในสถิติ ข้อมูลผิดปกติทางสถิติคือข้อมูลที่ได้รับอยู่ห่างจากข้อมูลที่เหลือในเชิงตัวเลข (บาร์เน็ตต์ และลูอิส 1994)
No account yet?
Create an Account