Showing 1–12 of 15 results

BF2000

SKU: BF2000
เป็นสารเหลวระเหย อายุใช้งานยาวนาน รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ

Carbon-Dioxide

SKU: Carbon-Dioxide
เหมือนหมอกสีขาว ดับไฟโดยการกำจัด ออกซิเจนผลสำหรับกลุ่ม B (สารไวไฟ) และกลุ่ม C (จากไฟฟ้า) ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า

ชุดพนักงานดับเพลิง

SKU: firefighting
ชุดพนักงานดับเพลิง มาตรฐาน EN469 Edition 2006 ผลิตจากเนื้อผ้า Nomex ตัดเย็บด้วยเส้นด้าย Kevlar ลักษณะเป็นเสื้อแยก กางเกง คาดด้วยแถบสะท้อนแสง 3M ความหนาของชั้นผ้ามีให้เลือกตั้งแต่ 2-4 ชั้น ตามลักษณะงาน ภายในชุดมีชั้นระบายความร้อน ทำให้โปร่ง สวมใส่ไม่อับชื้น สามารถเพิ่มกระเป๋าจุดแขวนวิทยุสื่อสาร

ชุดพนักงานดับเพลิง(ผลิตในประเทศ)

SKU: firefighting-inbound
ชุดดับเพลิงผลิตในประเทศ

ตู้เก็บสายดับเพลิง

SKU: fireequipments_carbinet-1
ตู้เก็บสายดับเพลิง

ตู้เก็บอุปกรณ์ดับเพลิง

SKU: fireequipments_carbinet
ตู้เก็บอุปกรณ์ดับเพลิง

ถุงมือดับเพลิง

SKU: firefighting-glove
ถุงมือดับเพลิง ฝ่ามือเป็นหนังท้องเสริมซับใน หน้ามืออลูมิไนซ์ กันความร้อน แถบรัดข้อมือเคฟลา

ผ้าห่มกันสะเก็ดไฟ ผ้าซิลิก้า หนา 0.76 mm

SKU: SIL610
฿1,700.00
ผ้าห่มกันสะเก็ดไฟผ้าซิลิก้า ความหนา 0.76 mm แต่ทนความร้อนได้มากกว่าผ้าใยแก้ว ใช้คลุมวัสดุหรืออุปกรณ์ป้องกันสะเก็ดไฟจากงานเชื่อม ตัวผ้าเป็นวัสดุผ้าซิลิก้า ทนความร้อนได้ 982c และหลอมเหลวที่ 1704c

ผ้าห่มกันสะเก็ดไฟ ผ้าใยแก้ว หนา 1 mm

SKU: HT860
฿600.00
ผ้าห่มกันสะเก็ดไฟผ้าใยแก้ว ความหนา 1 mm ใช้คลุมวัสดุหรืออุปกรณ์ป้องกันสะเก็ดไฟจากงานเชื่อม ตัวผ้าเป็นวัสดุผ้าใยแก้ว ทนความร้อนได้ 550c และหลอมเหลวที่ 800c

ผ้าห่มกันสะเก็ดไฟ ผ้าใยแก้ว หนา 1.7 mm

SKU: HT1760
฿950.00
ผ้าห่มกันสะเก็ดไฟผ้าใยแก้ว ความหนา 1.7 mm ใช้คลุมวัสดุหรืออุปกรณ์ป้องกันสะเก็ดไฟจากงานเชื่อม ตัวผ้าเป็นวัสดุผ้าใยแก้ว ทนความร้อนได้ 550c และหลอมเหลวที่ 800c

ผ้าห่มกันไฟ TopSpec Euro

SKU: FBHEURO
ผ้าห่มกันไฟ TopSpec Euro ทำจาก Glass fibre อย่างดี สามารถทนความร้อนได้สูง หลักการทำงานคือ คลุมไปยังจุดเกิดไฟไหม้ เพื่อลดปริมาณอ๊อกซิเจน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการติดไฟ

รองเท้าบู้ทดับเพลิง

SKU: firefighting-boot
รองเท้าบู้ทดับเพลิง มาตรฐาน NFPA ผลิตจากยางกันเปลวเพลิง กันลื่น ป้อมกันน้ำมัน ด้านในบุเคฟลา หัวเหล็ก พื้นเหล็ก

ถังดับเพลิง: เครื่องมือสำคัญในการป้องกันอัคคีภัย

ถังดับเพลิงเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและควบคุมไฟไหม้ในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน, ร้านค้า, โรงงาน หรือแม้แต่ในบ้านของเรา ถังดับเพลิงสามารถช่วยป้องกันและดับไฟได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดความเสียหายและป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ ในปัจจุบัน ถังดับเพลิงมีหลายประเภทให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับชนิดของเพลิงไหม้ที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อควรคำนึงในการเลือกใช้งาน นอกจากนี้ การบำรุงรักษาถังดับเพลิงอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ถังดับเพลิงสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

ประเภทของถังดับเพลิง

ถังดับเพลิงแบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามชนิดของสารดับเพลิงที่บรรจุอยู่ภายใน ซึ่งแต่ละประเภทจะเหมาะสมกับการดับเพลิงชนิดต่างๆ ดังนี้:

  1. ถังดับเพลิงผงเคมีแห้ง (Dry Chemical Extinguisher): ใช้สารเคมีผงแห้งเป็นสารดับเพลิง เหมาะสำหรับดับเพลิงที่เกิดจากน้ำมัน, ไฟฟ้า หรือโลหะ เนื่องจากสามารถตัดการเข้าออกของออกซิเจนและดับเพลิงได้อย่างรวดเร็ว
  2. ถังดับเพลิงคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Dioxide Extinguisher): ใช้สารดับเพลิงเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เหมาะสำหรับดับเพลิงที่เกิดจากวัตถุไฟไหม้ง่าย เช่น กระดาษ, ผ้า, ไม้ และน้ำมัน เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะช่วยลดออกซิเจนและดับเพลิงได้อย่างรวดเร็ว
  3. ถังดับเพลิงโฟม (Foam Extinguisher): ใช้สารโฟมเป็นสารดับเพลิง เหมาะสำหรับดับเพลิงที่เกิดจากน้ำมัน เนื่องจากสามารถกักเก็บไอระเหยของน้ำมันและปิดกั้นการเข้าออกของออกซิเจน
  4. ถังดับเพลิงผงเคมีแห้งชนิดพิเศษ (Special Dry Chemical Extinguisher): ใช้สารเคมีผงแห้งชนิดพิเศษเป็นสารดับเพลิง เหมาะสำหรับดับเพลิงที่เกิดจากโลหะ เช่น ลิเธียม, โซเดียม หรือแมกนีเซียม ซึ่งไม่สามารถดับด้วยน้ำหรือผงเคมีแห้งธรรมดาได้

การเลือกใช้ถังดับเพลิง

การเลือกใช้ถังดับเพลิงที่เหมาะสมกับประเภทของเพลิงไหม้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถพิจารณาตามหลัก Class ของเพลิงไหม้ ดังนี้:

  • Class A: เพลิงไหม้ที่เกิดจากวัสดุที่ติดไฟง่าย เช่น กระดาษ, ผ้า, ไม้ ควรใช้ถังดับเพลิงน้ำหรือถังดับเพลิงผงเคมีแห้งที่เหมาะสม
  • Class B: เพลิงไหม้ที่เกิดจากของเหลว หรือก๊าซไวไฟ เช่น น้ำมัน, ไขมัน ควรใช้ถังดับเพลิงผงเคมีแห้งหรือถังดับเพลิงโฟม
  • Class C: เพลิงไหม้ที่เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้า ควรใช้ถังดับเพลิงผงเคมีแห้งหรือถังดับเพลิงคาร์บอนไดออกไซด์
  • Class D: เพลิงไหม้ที่เกิดจากโลหะ เช่น ลิเธียม, โซเดียม หรือแมกนีเซียม ควรใช้ถังดับเพลิงผงเคมีแห้งชนิดพิเศษ
  • Class K: เพลิงไหม้ที่เกิดจากน้ำมันในการทำอาหาร หรือไขมันสัตว์ สามารถพบได้ในครัวตามบ้านหรือร้านอาหาร ครัวโรงแรมต่างๆ

นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาขนาดและปริมาณของถังดับเพลิงให้เหมาะสมกับขนาดของพื้นที่และความรุนแรงของเพลิงไหม้ด้วย

ประโยชน์ของถังดับเพลิง

ถังดับเพลิงมีประโยชน์อย่างมากในการป้องกันและควบคุมไฟไหม้ในสถานที่ต่างๆ ดังนี้:

  1. ป้องกันและควบคุมไฟไหม้: ถังดับเพลิงสามารถช่วยดับเพลิงขั้นต้นได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ไฟจะลุกลามเป็นวงกว้าง ช่วยป้องกันความเสียหายและอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
  2. ลดความเสียหายและค่าใช้จ่าย: การสามารถดับเพลิงได้อย่างทันท่วงทีด้วยถังดับเพลิง จะช่วยลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม หรือเปลี่ยนทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย
  3. ช่วยลดการสูญเสียชีวิต: ถังดับเพลิงสามารถช่วยป้องกันและคุมสถานการณ์ไฟไหม้ให้อยู่ในวงจำกัด ซึ่งช่วยป้องกันการสูญเสียชีวิตของผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้น
  4. เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็น: การจัดให้มีถังดับเพลิงในบริเวณต่างๆ ครบถ้วนถือเป็นมาตรการป้องกันอัคคีภัยที่จำเป็น และเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ในสถานที่สาธารณะ

การบำรุงรักษาถังดับเพลิง

การบำรุงรักษาถังดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ถังดับเพลิงสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งรวมถึง:

  1. การตรวจสอบสภาพ: ตรวจสอบสภาพภายนอกของถังดับเพลิง เช่น ความสมบูรณ์ของสารดับเพลิง, การรั่วซึม, ความเสียหายของเข็มวัดแรงดัน และอื่นๆ เป็นประจำทุก 1 เดือน
  2. การเติมสารดับเพลิง: ทำการเติมสารดับเพลิงในถังให้เต็มเสมอ และตรวจสอบวันหมดอายุของสารดับเพลิงเพื่อเปลี่ยนใหม่ตามกำหนด
  3. การบำรุงรักษาอุปกรณ์: ตรวจเช็คและซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ของถังดับเพลิง เช่น จานเลื่อน, หัวฉีด, สายยาง ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
  4. การฝึกอบรมและทดสอบ: จัดให้มีการฝึกอบรมและทดสอบการใช้งานถังดับเพลิงแก่พนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

การบำรุงรักษาถังดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยให้ถังดับเพลิงพร้อมใช้งานและสามารถป้องกันอัคคีภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

ด้วยความสำคัญของถังดับเพลิงในการป้องกันและควบคุมไฟไหม้ การเลือกใช้ถังดับเพลิงที่เหมาะสมกับประเภทของเพลิงไหม้ และการบำรุงรักษาถังดับเพลิงอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยลดความเสียหายและอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้น

กฏหมายเกี่ยวกับถังดับเพลิง

ในนประเทศไทย มีกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งและการบำรุงรักษาถังดับเพลิง ดังนี้:

  1. พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550
    • กำหนดให้สถานประกอบการ อาคาร และสถานที่สาธารณะ ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันและระงับอัคคีภัยที่เหมาะสมและเพียงพอ รวมถึงถังดับเพลิง
  2. กฎกระทรวงว่าด้วยการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555
    • กำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์ในการติดตั้งและบำรุงรักษาถังดับเพลิง เช่น จำนวน ขนาด ชนิด และตำแหน่งการติดตั้ง
  3. ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงาน พ.ศ. 2552
    • กำหนดให้โรงงานต้องจัดให้มีถังดับเพลิงที่มีคุณสมบัติและปริมาณเพียงพอตามความเหมาะสมกับลักษณะของโรงงาน
  4. ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2551
    • กำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์ในการติดตั้งและบำรุงรักษาถังดับเพลิงสำหรับอาคารในเขตกรุงเทพมหานคร

หน่วยงานที่กำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้ ได้แก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร โดยมีบทลงโทษสำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปรับ หรือจำคุก

การปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับถังดับเพลิงอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้สถานที่ต่างๆ มีความปลอดภัยจากอัคคีภัย และสามารถป้องกันและระงับเหตุการณ์ไฟไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

ถังดับเพลิงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากสำหรับการป้องกันและควบคุมเพลิงไหม้ในสถานที่ต่างๆ เช่น สำนักงาน ร้านค้า และโรงงาน รวมถึงในบ้านของเรา ถังดับเพลิงสามารถช่วยดับไฟได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสียหายและป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไปทั่ว

ถังดับเพลิงมีหลายประเภท เช่น ถังดับเพลิงน้ำ ถังดับเพลิงผงเคมี ถังดับเพลิงคาร์บอนไดออกไซด์ ถังดับเพลิงโฟม และถังดับเพลิงผงเคมีชนิดพิเศษ แต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนั้นต้องเลือกให้เหมาะกับชนิดของเพลิงไหม้ที่อาจเกิดขึ้น

ถังดับเพลิงมีประโยชน์มากมาย เช่น ป้องกันและควบคุมไฟไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสียหายและค่าใช้จ่าย ช่วยป้องกันการสูญเสียชีวิต และถือเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็นต้องมีติดตั้งในสถานที่สาธารณะ

นอกจากนี้ การบำรุงรักษาถังดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญ เช่น ตรวจสอบสภาพ เติมสารดับเพลิง ซ่อมแซมอุปกรณ์ และฝึกอบรมการใช้งาน เพื่อให้ถังดับเพลิงพร้อมใช้งานเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงการปฏิบัติให้ถูกต้องในแง่กฏหมายอัคคีภัยด้วย