WSWG29530 ถุงมือนีโอพรีนกันสารเคมี ยาว 33 ซ.ม.
WSWG37704 Nit Touch Gloves (1BOX/50คู่)
WSWG37718 Nitchem Gloves
ถุงมือป้องกันสารเคมี
ถุงมือยางป้องกันสารเคมี
ถุงมือป้องกันสารเคมีเป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับสารเคมีอันตราย ช่วยป้องกันผิวหนังจากการสัมผัสโดยตรงกับสารเคมี ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ข้อดีของการใช้ถุงมือป้องกันสารเคมี:
- ป้องกันการระคายเคืองและการบาดเจ็บของผิวหนัง: ถุงมือช่วยป้องกันไม่ให้สารเคมีสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลไหม้ ผื่นแพ้ หรือการระคายเคือง
- ลดความเสี่ยงในการดูดซึมสารพิษเข้าสู่ร่างกาย: สารเคมีบางชนิดสามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดได้ ถุงมือจึงช่วยป้องกันการดูดซึมสารพิษเหล่านี้
- ช่วยให้ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ: เมื่อสวมถุงมือ ผู้ปฏิบัติงานจะรู้สึกมั่นใจและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย
- มีหลายชนิดให้เลือกใช้เหมาะกับงานต่างๆ: ถุงมือป้องกันสารเคมีมีหลากหลายประเภท ทำจากวัสดุต่างๆ เช่น ยางธรรมชาติ, ไนไตรล์, นีโอพรีน ฯลฯ ทำให้สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับลักษณะงานและสารเคมีที่ต้องสัมผัส
วิธีเลือกใช้ถุงมือป้องกันสารเคมีอย่างเหมาะสม:
- พิจารณาชนิดของสารเคมีที่ต้องสัมผัส และเลือกวัสดุถุงมือที่ทนทานต่อสารนั้นๆ: ถุงมือแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการป้องกันสารเคมีต่างกัน ควรตรวจสอบตารางความทนทานต่อสารเคมีของถุงมือแต่ละประเภท
- เลือกขนาดที่พอดีกับมือ ไม่คับหรือหลวมเกินไป: ถุงมือที่พอดีจะช่วยให้ทำงานได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถ้าหลวมเกินไปอาจทำให้สารเคมีเข้าไปภายในได้
- ตรวจสอบความหนาของถุงมือให้เหมาะกับระยะเวลาการใช้งาน: ถุงมือที่หนากว่าจะให้การป้องกันที่ดีกว่าและใช้งานได้นานกว่า แต่อาจลดความคล่องตัวในการทำงาน
- พิจารณาความต้องการในการสัมผัสและการจับวัตถุ เลือกถุงมือที่มีผิวสัมผัสเหมาะสม: บางงานต้องการความละเอียดในการสัมผัส ควรเลือกถุงมือที่บางและยืดหยุ่น ในขณะที่งานหนักอาจต้องใช้ถุงมือที่หนาและทนทานกว่า
- ตรวจสอบอายุการใช้งานและเปลี่ยนถุงมือตามกำหนด: ถุงมือแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานที่จำกัด ควรตรวจสอบและเปลี่ยนถุงมือตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันที่ดีที่สุด
วัสดุของถุงมือป้องกันสารเคมีและคุณสมบัติในการป้องกัน:
- ถุงมือยางธรรมชาติ (Natural Rubber Latex)
- ป้องกันได้ดี: กรดอ่อน, ด่างอ่อน, แอลกอฮอล์, และสารละลายน้ำ
- ไม่เหมาะกับ: น้ำมัน, จาระบี, และสารละลายอินทรีย์
- ข้อควรระวัง: อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในบางคน
- ถุงมือไนไตรล์ (Nitrile)
- ป้องกันได้ดี: น้ำมัน, จาระบี, สารละลายอินทรีย์, และสารเคมีหลายชนิด
- ทนทานต่อการเสียดสีและการเจาะทะลุ
- เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูง
- มีทั้งแบบใช้แล้วทิ้ง (ไนไตรบางไม่มีแป้ง) และแบบใช้ซ้ำ
- ถุงมือนีโอพรีน (Neoprene)
- ป้องกันได้ดี: กรด, ด่าง, แอลกอฮอล์, น้ำมัน, และจาระบี
- ทนทานต่อการสึกหรอและการฉีกขาด
- เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหลากหลายชนิด
- ถุงมือพีวีซี (PVC – Polyvinyl Chloride)
- ป้องกันได้ดี: กรด, ด่าง, น้ำมัน, และไขมัน
- ราคาไม่แพง และทนทาน
- ไม่เหมาะกับสารละลายอินทรีย์บางชนิด
การเลือกใช้วัสดุถุงมือที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประเภทของสารเคมีที่ต้องสัมผัส ระยะเวลาการใช้งาน และลักษณะของงาน ควรศึกษาข้อมูลจากผู้ผลิตและตารางความทนทานต่อสารเคมีของถุงมือแต่ละประเภทก่อนการเลือกใช้ นอกจากนี้ ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้ถุงมือหลายชั้นเพื่อการป้องกันที่ดีที่สุด
มาตรฐานถุงมือป้องกันสารเคมี
มาตรฐานถุงมือป้องกันสารเคมีเป็นสิ่งสำคัญในการรับรองคุณภาพและประสิทธิภาพของถุงมือในการป้องกันอันตรายจากสารเคมี มาตรฐานเหล่านี้กำหนดโดยองค์กรระหว่างประเทศและหน่วยงานท้องถิ่น โดยมีมาตรฐานหลักๆ ดังนี้:
- มาตรฐาน EN ISO 374 เป็นมาตรฐานยุโรปที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก แบ่งออกเป็น: a) EN ISO 374-1: ทดสอบการป้องกันสารเคมีและจุลินทรีย์
- Type A: ทนทานต่อสารเคมีอย่างน้อย 6 ชนิดเป็นเวลา 30 นาที
- Type B: ทนทานต่อสารเคมีอย่างน้อย 3 ชนิดเป็นเวลา 30 นาที
- Type C: ทนทานต่อสารเคมีอย่างน้อย 1 ชนิดเป็นเวลา 10 นาที
b) EN ISO 374-2: ทดสอบการต้านทานการซึมผ่านของน้ำและอากาศ c) EN ISO 374-4: ทดสอบความต้านทานต่อการเสื่อมสภาพจากสารเคมี d) EN ISO 374-5: ทดสอบการป้องกันจุลินทรีย์และไวรัส
- มาตรฐาน ASTM F739 เป็นมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาที่ทดสอบอัตราการซึมผ่านของสารเคมีผ่านวัสดุถุงมือ
- มาตรฐาน AS/NZS 2161 เป็นมาตรฐานของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์สำหรับถุงมือป้องกันอันตราย รวมถึงการป้องกันสารเคมี
การทดสอบตามมาตรฐานเหล่านี้มักประกอบด้วย:
- การทดสอบการซึมผ่าน (Permeation): วัดระยะเวลาที่สารเคมีใช้ในการซึมผ่านวัสดุถุงมือ
- การทดสอบการแทรกซึม (Penetration): ตรวจสอบการรั่วซึมของสารเคมีผ่านรูหรือข้อบกพร่องของถุงมือ
- การทดสอบการเสื่อมสภาพ (Degradation): ประเมินการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางกายภาพของถุงมือหลังสัมผัสกับสารเคมี
- การทดสอบความทนทาน: ทดสอบความต้านทานต่อการฉีกขาด การเจาะทะลุ และการสึกหรอ
ผู้ใช้ควรเลือกถุงมือที่ผ่านการรับรองมาตรฐานที่เหมาะสมกับลักษณะงานและประเภทของสารเคมีที่ต้องสัมผัส นอกจากนี้ ควรตรวจสอบฉลากและข้อมูลจากผู้ผลิตเพื่อให้มั่นใจว่าถุงมือที่เลือกใช้มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานที่ต้องการ