บทความด้านความปลอดภัย

อุปกรณ์ดูดซับสารเคมีประเภทต่างๆมีอะไรบ้าง และการเลือกใช้ที่ถูกวิธี

อุปกรณ์ดูดซับสารเคมีเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการจัดการกับสารเคมีที่หกรั่วไหล เพื่อป้องกันอันตรายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยอุปกรณ์ดูดซับสารเคมีที่นิยมใช้มีหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับประเภทของสารเคมี ลักษณะพื้นที่หน้างาน สภาพแวดล้อมต่างๆ ซึ่งเราจำเป็นจะต้องเลือกใช้ถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการกักกันสารเคมีไม่ให้รั่วไหล

ประเภทของอุปกรณ์ดูดซับสารเคมี

  1. แผ่นดูดซับสารเคมี (Chemical Absorbent Pads/Mats) ทำจากวัสดุพิเศษที่สามารถดูดซับสารเคมีได้ดี เช่น พอลิพรอพิลีน มีทั้งแบบแผ่นบางและแบบม้วน
  2. ทรายดูดซับ (Absorbent Sand) เป็นทรายพิเศษที่ดูดซับสารเคมีได้ดี บางครั้งอาจมีการเคลือบด้วยสารเคมีบางชนิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  3. ขี้เลื่อยดูดซับ (Absorbent Sawdust) ขี้เลื่อยที่ผ่านการปรับปรุงให้สามารถดูดซับสารเคมีได้ดี
  4. วัสดูดซับชนิดท่อน (Absorbent Socks/Booms) มีลักษณะคล้ายพรมม้วนยาว ใช้สำหรับดูดซับและกักเก็บสารเคมีที่รั่วไหล
  5. ถุงดูดซับสารเคมี (Absorbent Pouches/Pillows) เป็นถุงบรรจุวัสดุดูดซับ สามารถนำไปวางรองรับในจุดที่สารเคมีหกได้

การเลือกใช้อุปกรณ์ดูดซับสารเคมีต้องพิจารณาจากประเภท ปริมาณและลักษณะของสารเคมีที่หกรั่วไหล รวมถึงพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อให้การดูดซับมีประสิทธิภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ผู้ปฏิบัติงานควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสม

การเลือกใช้อุปกรณ์ดูดซับสารเคมีให้เหมาะสมกับชนิดของสารเคมีนั้นมีความสำคัญมาก เพื่อให้สามารถดูดซับสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยมีแนวทางในการพิจารณาดังนี้

  1. สารเคมีเปียก (Aqueous Solutions) เช่น กรด ด่าง สารละลายเกลือต่างๆ ควรใช้ผ้าดูดซับหรือทรายดูดซับที่สามารถดูดซับของเหลวได้ดี
  2. สารเคมีที่เป็นของเหลวไวไฟ (Flammable Liquids) เช่น น้ำมันเบนซิน ควรใช้วัสดุดูดซับที่ไม่ก่อให้เกิดประจุไฟฟ้าสถิต และดูดซับสารเคมีได้ดี เช่น ขี้เลื่อยดูดซับ หรือพรมดูดซับ
  3. สารเคมีที่เป็นของแข็ง (Solids) เช่น ผงเคมี ให้ใช้ผ้าดูดซับหรือถุงดูดซับ และระมัดระวังไม่ให้ฟุ้งกระจายในอากาศ
  4. สารเคมีที่เป็นสารพิษ (Toxic Chemicals) ควรใช้อุปกรณ์ดูดซับที่เหมาะสมโดยเฉพาะ และผู้ปฏิบัติงานต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
  5. สารเคมีที่มีการปนเปื้อน (Mixed Chemicals) ให้ระมัดระวังอย่างยิ่งในการเลือกใช้อุปกรณ์ เนื่องอาจเกิดปฏิกิริยารุนแรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนดำเนินการ

นอกจากนั้น ควรศึกษาคู่มือการใช้งานและข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีและอุปกรณ์อย่างละเอียด เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

การกำจัดวัสดุดูดซับสารเคมีที่ใช้แล้วนั้นมีขั้นตอนและวิธีการที่ต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องและระมัดระวัง เนื่องจากวัสดุดูดซับเหล่านี้จะปนเปื้อนไปด้วยสารเคมีอันตราย การกำจัดที่ไม่ถูกวิธีอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ได้ ดังนั้น ควรปฏิบัติดังนี้

  1. คัดแยกวัสดุดูดซับสารเคมีตามประเภทของสารเคมีที่ดูดซับ เช่น วัสดุที่ดูดซับกรด แยกจากวัสดุที่ดูดซับสารเคมีไวไฟ เป็นต้น
  2. บรรจุวัสดุดูดซับที่ใช้แล้วลงในภาชนะบรรจุที่เหมาะสม ทนทาน มีฝาปิดสนิท และติดป้ายแสดงชนิดของสารเคมีที่ปนเปื้อนอยู่อย่างชัดเจน
  3. ศึกษาข้อมูลความปลอดภัย (SDS) และคำแนะนำจากผู้ผลิตวัสดุดูดซับนั้นๆ ว่ามีวิธีการกำจัดที่เหมาะสมอย่างไร
  4. หากเป็นของเสียอันตราย ต้องว่าจ้างบริษัทผู้รับกำจัดของเสียอันตรายที่ได้รับอนุญาตมารับไปกำจัดอย่างถูกวิธี พร้อมจัดทำเอกสารการส่งมอบที่ถูกต้อง
  5. หากสามารถกำจัดเองได้ ให้นำวัสดุไปเผาในเตาเผาของเสียอันตรายที่ได้มาตรฐานและมีการควบคุมการปล่อยมลพิษอย่างเข้มงวด
  6. ห้ามกำจัดวัสดุดูดซับสารเคมีปะปนรวมกับของเสียอื่นๆ หรือทิ้งลงสู่แหล่งน้ำและพื้นดิน
  7. ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมตลอดกระบวนการจัดการ

การกำจัดวัสดุดูดซับอย่างถูกวิธีจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ควรปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
อายุการจัดเก็บวัสดุดูดซับสารเคมีเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เนื่องจากหากเก็บไว้นานเกินไปอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการดูดซับสารเคมี โดยทั่วไปมีแนวทางดังนี้

การเก็บรักษาอุปกรณ์ดูดซับสารเคมีประเภทต่างๆ

  1. แผ่นดูดซับสารเคมี (Chemical Absorbent Pads/Mats)

– ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีอายุการจัดเก็บประมาณ 3-5 ปี นับจากวันที่ผลิต

– ควรเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและแห้ง หลีกเลี่ยงความร้อน แสงแดด และความชื้น

  1. ทรายดูดซับสารเคมี (Absorbent Sand)

– สามารถเก็บไว้ได้นานหลายปี หากเก็บในสภาพแห้งและปิดผนึกอย่างดี

– ควรตรวจสอบดูว่ายังคงมีคุณสมบัติในการดูดซับอยู่หรือไม่ก่อนนำมาใช้งาน

  1. ขี้เลื่อยดูดซับ (Absorbent Sawdust)

– อายุการจัดเก็บขึ้นอยู่กับคุณภาพของขี้เลื่อย โดยเฉลี่ยประมาณ 1-2 ปี

– ควรเก็บในบรรจุภัณฑ์ปิดสนิท แห้ง และห่างจากความร้อน

  1. วัสดูดซับชนิดท่อน (Absorbent Socks/Booms)

– อายุการเก็บรักษาโดยเฉลี่ย 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ผลิต

– เก็บในบรรจุภัณฑ์ปิดผนึกเพื่อป้องกันความชื้น

หากพบว่าวัสดุดูดซับมีกลิ่นผิดปกติ เปลี่ยนสี หรือมีการเสื่อมสภาพ ควรทิ้งไปและเปลี่ยนใหม่ การจัดเก็บที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้วัสดุสูญเสียประสิทธิภาพในการดูดซับสารเคมี