เมื่อสอบถามเราจะพบว่าพนักงานมีข้ออ้างที่จะไม่สวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ หรืออุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) ตอนทำงาน เช่น “มันไม่ถนัดทำให้ทำงานช้าลง” “มันไม่พอดีตัว” “มันร้อนไม่สบายตัว” และอื่น ๆ อีกมากมาย
ถึงแม้ว่าเรามีความมั่นใจว่าอุปกรณเซฟตี้ของคนงานนั้นเหมาะสมกับสภาพอากาศ งาน และสรีระร่างกายที่แตกต่างกัน แต่ ปัญหาของการที่พนักงานไม่ปฏิบัติตามมาตรการสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้มักจะไม่ใช่ที่ตัวอุปกรณ์
ถ้าหากผู้จัดการหรือหัวหน้างานได้รับฟังข้ออ้างต่างๆนาๆที่พนักงานไม่สวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้อ้างขึ้นมาจนเบื่อ อาจจะต้องมองดูตัวเราเองว่าเราทำอะไรไม่ถูกต้องรึปล่าว มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Safety Research ในปี 2023 พบปัจจัย 16 ประการที่เป็นสาเหตุของการที่พนักงานไม่สวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ ซึ่งปัจจัยสำคัญนั้นเป็นเรื่องของจัดการและการกำกับดูแลความปลอดภัยในที่ทำงานเป็นส่วนใหญ่
นักวิจัยใช้ข้อมูลจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในอุตสาหกรรมก่อสร้างเกือบ 200 คน เพื่อจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยต่างๆ และพัฒนากลยุทธ์ที่สามารถปฏิบัติได้จริงเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ปัญหาพนักงานไม่สวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้
จากงานวิจัยดังกล่าว พบว่าปัญหา 4 ข้อหลักที่เป็นสาเหตุที่พนักงานไม่ปฏิบัติตามมาตรการสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ ในองค์กร และสิ่งที่สามารถนำไปปฎิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาดังนี้
-
ปัญหาที่ 1: การกำกับดูแลความปลอดภัยที่ไม่จริงจังเพียงพอ
ถ้าหัวหน้างานลังเลที่จะยืนยันให้คนงานสวมใส่อุปกรณ์ PPE หรือมีปัญหาคนงานถอดอุปกรณ์ PPE ออกทันทีที่หัวหน้าไม่อยู่หน้างาน คุณอาจกำลังเผชิญกับปัญหาการกำกับดูแลความปลอดภัยที่ไม่จริงจังเพียงพอ
ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้ จากผู้เขียนบทความในวารสาร Journal of Safety Research หัวหน้างานอาจปล่อยให้คนงานไม่ปฏิบัติตามมาตรการสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ เพราะต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้ โดยคิดว่าจะทำให้งานเสร็จตรงเวลาได้ง่ายขึ้น
หัวหน้างานอาจแก้ปัญหาด้วยการให้รางวัลกับคนงานที่สวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ ซึ่งอาจใช้ได้ผลและมีประสิทธิภาพ แต่อาจไม่เหมาะสำหรับการสร้างให้เกิดการรับรู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยสิ่งที่คุณสามารถทำได้
การเป็นแบบอย่างที่ดี หัวหน้างานสามารถเป็นต้นแบบในการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย แม้จะเป็นงานที่ต้องรีบทำให้เสร็จหรืองานที่ใช้เวลาน้อยๆ ใช้การพูดชื่นชม ยกขึ้นเป็นตัวอย่างที่ดีเมื่อเห็นว่าพนักงานทำในสิ่งที่ถูกต้อง สามารถส่งเสริมค่านิยมที่จะช่วยให้พนักงานทำสิ่งที่ถูกต้องแม้ไม่มีใครกำลังจ้องมองอยู่
ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหัวหน้างานเช่นเดียวกับพนักงานที่พวกเขากำกับดูแล จากงานวิจัยในวารสาร Journal of Safety Research ขั้นตอนสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพของการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยคือการสนับสนุน วัดผล และกำกับดูแลงานในความรับผิดชอบของหัวหน้างานเองด้วย
อีกขั้นตอนสำคัญคือการให้ผู้ช่วย ให้เครื่องมือที่จำเป็นแก่หัวหน้างาน และจัดเครือข่าย จัดสภาพแวดล้อมเพื่อให้พนักงานสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ให้เป็นปกติ ด้วยการจัดหาผู้ช่วยคอยตรวจสอบ เช่น พนักงานที่เป็นตัวแทนดูแลความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน การสื่อสารที่ชัดเจนและเป็นมืออาชีพระหว่างหัวหน้างานและพนักงาน ซึ่งฝ่ายบริหารเองก็สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพของการกำกับดูแลความปลอดภัยโดยรวมได้
-
ปัญหาที่ 2: ขาดการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย หรืออบรมไม่เพียงพอ
หากพนักงานไม่รู้จริงๆ ว่าจะใช้อุปกรณ์เซฟตี้อย่างไร หรือพวกเขาไม่เข้าใจมาตรการความปลอดภัยที่ใช้บังคับใช้ในที่ทำงาน คุณอาจกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย หรืออบรมไม่เพียงพอ งานวิจัยในวารสาร Journal of Safety Research คนงานส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยกล่าวว่าพวกเขาทำงานของตัวเอง หรือทำงานให้กับบริษัทขนาดเล็กที่ไม่มีโปรแกรมการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยอย่างเป็นทางการ แต่จริงๆแล้วสิ่งที่บริษัทไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ควรพิจารณาคือความถี่ของการฝึกอบรม
สิ่งที่คุณสามารถทำได้
ประการแรกต้องมั่นใจว่าคนงานได้รับการฝึกอบรมเพียงพอ กระทรวงแรงงาน กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน มีคลังความรู้มากมายสำหรับการฝึกอบรมที่ดาวน์โหลดได้ เพื่อจัดการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยเมื่อมีการจ้างคนใหม่ เมื่อมีการมอบอุปกรณ์เซฟตี้ และจัดการฝึกอบรมทบทวนประจำปีด้วย
ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้จัดการต้องสนับสนุนโปรแกรมการศึกษาและการประชาสัมพันธ์ด้านความปลอดภัย
-
ปัญหาที่ 3: การขาดการสนับสนุนด้านความปลอดภัย
หากไม่มีใครบังคับใช้กฎหมายแรงงานและทำให้แน่ใจว่าผู้รับเหมาปฏิบัติตามกฎระเบียบ หรือถ้าฝ่ายบริหารไม่ได้จัดหาอุปกรณ์เซฟตี้ หรืออุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) อย่างเพียงพอและยังไม่มีแนวทางปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่ดี คุณอาจกำลังเผชิญกับการขาดการสนับสนุนด้านความปลอดภัยจากฝ่ายบริหาร ตามการศึกษาของ Journal of Safety Research
ปัญหานี้เกิดจากการที่ฝ่ายบริหารไม่ได้มุ่งมั่นในเรื่องความปลอดภัยเท่าที่ควร ซึ่งเป็นหนึ่งในลักษณะสำคัญของวัฒนธรรมความปลอดภัยที่อ่อนแอ ความมุ่งมั่นของฝ่ายบริหารในด้านความปลอดภัยเป็นตัวบ่งชี้สำคัญถึงพฤติกรรมความปลอดภัยและการบาดเจ็บของพนักงาน
สิ่งที่คุณสามารถทำได้
เมื่อฝ่ายบริหารขาดความมุ่งมั่นในด้านความปลอดภัย ส่วนหนึ่งของปัญหาอาจเป็นเพราะไม่เข้าใจผลที่ตามมา ตามการศึกษาใน Journal of Safety Research การอธิบายต้นทุนทางการเงินและความเสี่ยงด้านชื่อเสียงจากการบาดเจ็บในที่ทำงานสามารถช่วยให้เข้าใจคุณค่าของการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มีข้อมูลมากมายที่สนับสนุนเหตุผลที่ว่าความปลอดภัยในการทำงานส่งผลต่อธุรกิจ เช่น OSHA ได้ประเมินว่าการบาดเจ็บในที่ทำงานส่งผลต่อผลกำไรของบริษัท
อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญคือการสนับสนุนให้ฝ่ายบริหารปฏิบัติจริง ไม่ใช่แค่พูด การนำผู้จัดการมาสาธิตการใช้อุปกรณ์เซฟตี้ที่เหมาะสม สามารถช่วยทำให้ทุกคนในที่ทำงานเห็นความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยของฝ่ายบริหาร
และประโยชน์ของความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยของฝ่ายบริหารไม่ได้จำกัดแค่ผลงานด้านความปลอดภัยเท่านั้น การศึกษาหนึ่งพบว่า เมื่อพนักงานเชื่อว่าฝ่ายบริหารให้คุณค่ากับความปลอดภัยและสวัสดิภาพของพวกเขา พนักงานจะพึงพอใจกับงานมากขึ้นและมุ่งมั่นกับบริษัทมากขึ้น
-
ปัญหาที่ 4: การจัดหาอุปกรณเซฟตี้ที่ไม่ดี
หากคนงานไม่อยากสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ เพราะรู้สึกไม่สบาย ไม่พอดี หรือคุณภาพไม่ดี คุณอาจกำลังเผชิญปัญหาการจัดหาอุปกรณ์เซฟตี้ที่ไม่เหมาะสมกับงาน
แล้วทำไมนี่ถึงเป็นปัญหาการบริหาร? ปัญหานี้ส่งผลต่อพนักงานจากอุปกรณ์เซฟตี้ที่ได้รับโดยตรงเพราะเป็นผู้ใช้งาน แม้ว่าฝ่ายบริหารจะไม่รับทราบ และถ้าฝ่ายบริหารมองไม่เห็นปัญหา อาจจะเป็นเพราะไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบมากพอ
สิ่งที่คุณสามารถทำได้
ประการแรกอย่าลืมว่าการประเมินความเสี่ยงในที่ทำงานสำหรับการเลือกอุปกรณ์เซฟตี้ ไม่ได้เป็นทำครั้งเดียวจบ การทำงานอาจเปลี่ยนแปลงไป และการออกแบบอุปกรณ์เซฟตี้ก็มีวิวัฒนาการอยู่เสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำการประเมินความเสี่ยงในที่ทำงานซ้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าคนงานมีอุปกรณ์เซฟตี้ที่ดีที่สุดสำหรับงานนั้นๆ จริงๆ
ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องให้คนงานมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกอุปกรณ์เซฟตี้ การทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีคนรับฟังความคิดเห็นของพวกเขา จะช่วยกระตุ้นการยอมรับและความร่วมมือได้
สุดท้ายนี้ บทความใน Journal of Safety Research ยังแนะนำให้กระตุ้นความต้องการใช้งานอุปกรณ์เซฟตี้ของพนักงาน ด้วยรูปแบบที่สวยงามมีดีไซน์ที่ดี มีขนาดและสีสันให้เลือกใช้งานหลากหลายขึ้น