บทความด้านความปลอดภัย

5 สัญญาณเตือนว่าคุณควรเปลี่ยนเชือกโรยตัวใหม่ได้แล้ว

 สำหรับงานบนที่สูง ความปลอดภัยคือสิ่งที่ต้องมาก่อนเสมอ หนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในการทำงานโรยตัวก็คือ “เชือกโรยตัว” ซึ่งเป็นตัวกลางที่รับน้ำหนักของผู้ปฏิบัติงานโดยตรง หากเชือกเกิดความเสียหายหรือเสื่อมสภาพโดยที่ยังใช้งานต่อไป อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิตได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบเชือกอย่างสม่ำเสมอ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 สัญญาณเตือนสำคัญ ที่บ่งบอกว่าเชือกโรยตัวของคุณไม่ปลอดภัยอีกต่อไป และถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนเชือกใหม่แล้ว


1. เชือกมีรอยขาด, รอยปุย หรือเส้นใยหลุดลุ่ยอย่างเห็นได้ชัด

ร่องรอยเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งชี้อันดับต้น ๆ ว่าเชือกกำลังเสื่อมสภาพ รอยขาดอาจเริ่มจากเส้นใยภายนอก (Sheath) และลุกลามไปถึงแกนกลาง (Core) ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักในการรับน้ำหนัก

  • หากเชือกมีลักษณะ “ปุยฟู” หรือเส้นใยหลุดออกจากกัน อาจเกิดจากการเสียดสีกับวัสดุหยาบ หรือการใช้งานในพื้นที่ที่มีขอบแหลม

  • เชือกที่เปื่อยยุ่ย อาจเป็นผลมาจากการสัมผัสสารเคมี น้ำมัน หรือแสงแดดเป็นเวลานาน

แนวทาง: หากพบจุดเสียหายเล็กน้อย ควรใช้เชือกเฉพาะในงานเบา ๆ หรือฝึกซ้อมเท่านั้น แต่ถ้าเสียหายมากเกิน 10% ของความยาวเชือก หรือแกนกลางมีปัญหา ให้ยุติการใช้งานทันที


2. เชือกแข็งตัวหรือมีจุดที่ “เป็นก้อน” เมื่อสัมผัส

เมื่อสัมผัสเชือกแล้วพบว่ามีลักษณะผิดปกติ เช่น มีจุดแข็งกว่าปกติหรือเป็นก้อน ๆ (lumps), จุดยุบตัว หรือรู้สึกไม่เรียบต่อเนื่องตลอดเส้น นั่นอาจหมายถึงแกนกลางของเชือก (Core) ได้รับความเสียหายหรือเกิดการหดตัวของวัสดุภายใน

  • จุดแข็งอาจเกิดจากความร้อนสะสมเมื่อเบรกตกอย่างรุนแรง หรือม้วนเชือกผิดวิธี

  • การหดตัวของเชือกอาจเกิดขึ้นเมื่อโดนความร้อนสูงหรือหลังจากใช้งานมาเป็นเวลานาน

แนวทาง: เชือกที่มีการเสียรูปของโครงสร้างภายใน ไม่ควรนำกลับมาใช้งานเพื่อความปลอดภัยสูงสุด


3. เชือกสัมผัสกับสารเคมีหรือของเหลวอันตราย

ถึงแม้สายตาจะมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง แต่การที่เชือกโรยตัวสัมผัสกับสารเคมี เช่น กรด, ด่าง, น้ำมัน หรือสารทำละลาย อาจส่งผลให้เส้นใยอ่อนแอและเปราะบางลงอย่างมาก

  • สารเคมีบางชนิดจะไม่แสดงผลในทันที แต่จะสะสมความเสียหายภายในโครงสร้างเชือก

  • แม้แค่การตกลงไปในน้ำมันเครื่อง หรือโดนน้ำกรดเล็กน้อย ก็เพียงพอที่จะทำให้เชือกหมดสภาพ

แนวทาง: หากไม่แน่ใจว่าเชือกสัมผัสกับสารอันตรายหรือไม่ แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ทันที เพราะความเสี่ยงที่ตามมาอาจไม่คุ้มค่า


4. เชือกหมดอายุการใช้งาน

แม้ว่าเชือกจะไม่มีรอยขาดหรือดูเหมือนใช้งานได้ แต่หากมีอายุการใช้งานนานเกิน 5–10 ปี (แล้วแต่ยี่ห้อและการดูแลรักษา) ก็ควรพิจารณาเลิกใช้งาน

  • เชือกที่เก็บไว้นานโดยไม่ได้ใช้งาน อาจเสื่อมสภาพจากอุณหภูมิหรือความชื้น

  • บางรุ่นจะมี “รหัสผลิต” หรือ “ล็อตวันที่” ระบุไว้ในป้ายหรือแถบภายในเชือก ให้ตรวจสอบจากตรงนั้น

แนวทาง: ควรบันทึกวันที่เริ่มใช้งานเชือกแต่ละเส้นไว้ และกำหนดรอบตรวจสอบตามคำแนะนำจากผู้ผลิต


5. เชือกเคยผ่านเหตุการณ์รุนแรง เช่น การรับน้ำหนักตกอย่างรุนแรง

เมื่อเชือกได้รับแรงกระชากหรือแรงตกอย่างรุนแรง (fall factor สูง) แม้ว่าเชือกจะไม่ขาดในทันที แต่อาจทำให้โครงสร้างภายในเสียหายเกินกว่าที่จะรับน้ำหนักได้ในอนาคต

  • การตกจากความสูงโดยใช้เชือกโรยตัวแม้เพียงครั้งเดียว อาจส่งผลต่อความแข็งแรงของเชือก

  • บางครั้งเชือกที่ผ่านการตกแรง ๆ จะดูเหมือนยังดีอยู่ภายนอก แต่เมื่อทดสอบแรงดึงจะพบว่าค่าความปลอดภัยลดลงอย่างมาก

แนวทาง: หากเชือกเคยใช้รองรับการตกหนักมาก่อน ไม่ควรนำกลับมาใช้สำหรับงานโรยตัวในพื้นที่จริง ควรจำกัดการใช้งานเฉพาะในงานฝึกเท่านั้น หรือเปลี่ยนเชือกใหม่เลยจะปลอดภัยกว่า


สรุป: ความปลอดภัยอยู่ที่การใส่ใจรายละเอียด

การตรวจเชือกโรยตัวก่อนใช้งานทุกครั้งเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการมองเห็นความผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจช่วยป้องกันอุบัติเหตุใหญ่ได้ เชือกที่ดูเหมือนยังใช้ได้ อาจแฝงความเสียหายที่อันตรายถึงชีวิต

อย่าลืมว่า ชีวิตของผู้ปฏิบัติงานแขวนอยู่กับเชือกเส้นเดียว การลงทุนกับอุปกรณ์คุณภาพดีและการเปลี่ยนเชือกตามเวลาที่เหมาะสม ย่อมคุ้มค่ากว่าการต้องรับความเสี่ยงที่ประเมินค่าไม่ได้