บทความด้านความปลอดภัย

เทคนิคและวิธีปฏิบัติที่ปลอดภัยในการทำงานโรยตัวบนที่สูง

การทำงานโรยตัวบนที่สูงเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ ความชำนาญ และความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากการปฏิบัติงานในสภาวะที่มีความเสี่ยงต่อการพลัดตก การใช้เชือกโรยตัวและอุปกรณ์ทำงานบนที่สูงอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะนำเสนอเทคนิคและวิธีปฏิบัติที่ปลอดภัยเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

1. การตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งาน

1.1 เชือกโรยตัว

เชือกโรยตัวเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำงานบนที่สูง ควรตรวจสอบคุณสมบัติของเชือกก่อนใช้งานเสมอ โดยเช็คสิ่งต่อไปนี้:

  • สภาพของเชือก: ห้ามใช้เชือกที่มีรอยขาด หรือเปื่อยเสียหาย
  • ความสามารถรับน้ำหนัก: ตรวจสอบว่าสามารถรองรับน้ำหนักตามมาตรฐานที่กำหนด
  • การเสื่อมสภาพจากแสงแดด: เชือกที่ตากแดดนาน ๆ อาจเสื่อมสภาพและไม่แข็งแรงพอ

1.2 ฮาร์เนส (Harness) หรืออุปกรณ์คาดตัว

  • ตรวจสอบสายรัดทุกจุดว่ามีการฉีกขาดหรือไม่
  • ตรวจสอบตัวล็อกว่ามีการทำงานที่สมบูรณ์ ไม่หลวม หรือมีสนิม
  • ตรวจสอบขนาดว่าเหมาะสมกับผู้ใช้งานหรือไม่

1.3 อุปกรณ์กันตก (Fall Protection Equipment)

  • เช็คว่าตะขอเกี่ยว (Carabiner) สามารถล็อกได้แน่นหนา
  • ตรวจสอบเชือกนิรภัย (Lanyard) ว่ายังอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยขาด
  • ตรวจสอบการทำงานของระบบ Self-Retracting Lifeline (SRL)

2. วิธีการเลือกเชือกโรยตัวและจุดยึดที่มั่นคง

2.1 การเลือกเชือกโรยตัว

  • เลือกเชือกที่ผ่านมาตรฐาน EN 1891 หรือ ANSI Z359.1 ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับเชือกโรยตัวที่ใช้ในการทำงานบนที่สูง
  • เชือกแบบ Static Rope มีการยืดตัวต่ำ เหมาะสำหรับงานโรยตัวที่ต้องการความมั่นคง
  • เชือกแบบ Dynamic Rope มีการยืดตัวมากกว่า เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงต่อการตกกระแทก

2.2 การเลือกจุดยึด (Anchor Point)

  • จุดยึดควรรับน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 15 kN (1,500 กก.)
  • ต้องเป็นโครงสร้างที่แข็งแรง เช่น คานเหล็ก คอนกรีตที่ติดตั้งจุดยึดเฉพาะ
  • ห้ามใช้ท่อหรือราวกันตกที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนัก

3. วิธีการทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร

3.1 ระบบงานสองเชือก (Two Rope System)

  • เชือกเส้นหลัก (Main Rope) ใช้สำหรับรองรับน้ำหนักตัวผู้ปฏิบัติงาน
  • เชือกเส้นสำรอง (Backup Rope) ใช้สำหรับป้องกันการตกในกรณีฉุกเฉิน

3.2 การสื่อสารระหว่างทีมงาน

  • ใช้วิทยุสื่อสาร หรือสัญญาณมือเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการสื่อสาร
  • กำหนดคำสั่งให้ชัดเจน เช่น “ขึ้น”, “ลง”, “หยุด”, “ปลอดภัย”
  • ผู้ปฏิบัติงานต้องรายงานสถานะทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงจุดทำงาน

4. การจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน

4.1 การฝึกซ้อมกู้ภัย (Rescue Training)

  • ควรมีการฝึกซ้อมการช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานที่อาจหมดสติขณะทำงานบนที่สูง
  • ผู้ปฏิบัติงานควรทราบวิธีการใช้ Descender และอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่น ๆ

4.2 วิธีป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

  • หลีกเลี่ยงการทำงานในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม เช่น ลมแรง ฝนตกหนัก หรือแดดจัด
  • สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ (Helmet) ที่ได้มาตรฐาน เช่น EN 397 หรือ ANSI Z89.1
  • หลีกเลี่ยงการโยกตัวแรง ๆ หรือกระโดดจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง

5. ข้อปฏิบัติที่ปลอดภัยสำหรับการทำงานบนที่สูง

5.1 ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนเริ่มงาน

  • ตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ว่ามีสิ่งกีดขวางหรืออุปกรณ์ที่อาจเป็นอันตรายหรือไม่
  • เช็คความมั่นคงของโครงสร้างที่ใช้เป็นจุดยึด

5.2 ใช้ระบบป้องกันการตกทุกครั้ง

  • ห้ามทำงานโรยตัวโดยไม่มีอุปกรณ์กันตก
  • ต้องแน่ใจว่ามีเชือกเส้นสำรองเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

5.3 พักผ่อนให้เพียงพอก่อนปฏิบัติงาน

  • อาการอ่อนล้าจะเพิ่มความเสี่ยงของอุบัติเหตุ
  • ควรหลีกเลี่ยงการทำงานเป็นเวลานานโดยไม่มีการพัก

สรุป

การทำงานโรยตัวบนที่สูงมีความเสี่ยงสูง แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด การเลือกเชือกโรยตัวที่เหมาะสม ตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งาน และทำงานเป็นทีมโดยใช้ระบบสื่อสารที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ การฝึกซ้อมกู้ภัยและการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนควรมีความรู้และฝึกฝนอยู่เสมอ