ตู้เก็บสารเคมี

การเลือกใช้ตู้จัดเก็บสารเคมีหรือ Safety Cabinet เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บและป้องกันสารเคมีอันตรายในสถานที่ทำงาน. ดังนั้น, ควรเลือกและใช้ Safety Cabinet ตู้ที่ผลิตตามมาตรฐาน NFPA

ตู้เก็บสารเคมีไวไฟ Justrite

คุณสมบัติของตู้จัดเก็บสารเคมี Justrite มีคุณสมบัติตามมาตรฐาน NFPA 
ในการป้องกันอันตรายจากเพลิงไหม้ ตู้จัดเก็บสารเคมีผลิตด้วยวัสดุที่ทนทาน และการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ 
ให้คุณมั่นใจได้ในความปลอดภัย 

ตู้เก็บสารเคมีช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างไร

ตู้เก็บสารเคมี JUSTRITE ได้รับการออกแบบและสร้างเพื่อจำกัดอุณหภูมิภายในให้ไม่เกิน 325 °F (162°C)เมื่อตู้ถูกเพลิงไหม้เป็นเวลา 10 นาที ตามมาตรฐาน NFPA (ยกเว้นรุ่นพิเศษบางรุ่นที่สามารถทนไฟได้มากถึง 30 นาที)  ซึ่งในช่วงเวลานี้ เพียงพอสำหรับให้พนักงานอพยพออกจากพื้นที่เพลิงไหม้ หรือให้สปริงเกอร์ดับเพลิงทำงานเพื่อดับไฟ ช่วยให้ความร้อนไม่สัมผัสกับสารเคมีด้านใน ซึ่งป้องกันการลุกลามและการระเบิดได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

คุณสมบัติสำคัญของตู้จัดเก็บสารเคมี

ตู้จัดเก็บสารเคมีมีความสำคัญต่อความปลอดภัยในการทำงานและเก็บรักษาสารเคมี ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับตู้จัดเก็บสารเคมีมีดังนี้

1. วัสดุของตู้เก็บสารเคมี

ตู้จัดเก็บสารเคมีควรทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสารเคมี เช่น โลหะกันสนิม พลาสติกเคลือบผิว หรือวัสดุกันไฟ เพื่อป้องกันการรั่วไหลและการกัดกร่อน

2. ระบบระบายอากาศ

ตู้ควรมีระบบระบายอากาศที่ดี เพื่อป้องกันการสะสมของไอระเหยหรือก๊าซพิษ อาจติดตั้งพัดลมระบายอากาศหรือท่อระบายไอเสีย

3. การจัดเรียงและแยกประเภท

สารเคมีต้องจัดเรียงและแยกประเภทอย่างเป็นระเบียบ โดยแยกตามความเข้ากันได้ทางเคมี ป้ายชื่อและเครื่องหมายเตือนต้องชัดเจน

4. กฎระเบียบด้านความปลอดภัย

ตู้จัดเก็บสารเคมีต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน OSHA, NFPA และกฎหมายท้องถิ่น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

5. การบำรุงรักษาตู้เก็บสารเคมี

ตู้จัดเก็บสารเคมีต้องได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทำความสะอาด ตรวจสอบรอยรั่ว และเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลืองการมีตู้จัดเก็บสารเคมีที่เหมาะสมและบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายของสารเคมี ปกป้องพนักงาน และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง

ประเภทของตู้จัดเก็บสารเคมี

1. ตู้นิรภัยสารไวไฟ (Flammable Storage Cabinets)

   สำหรับจัดเก็บสารเคมีไวไฟ เช่น สารระเหย ทนไฟ ผลิตจากเหล็กกล้าอย่างหนา เพื่อทนความร้อนได้ดี

3. ตู้จัดเก็บสารเคมีประเภทกัดกร่อน (Corrosive Cabinets)

   จัดเก็บสารเคมีที่เป็นกรดหรือด่างเข้มข้น มีการเคลือบสารสำหรับป้องกันและทนต่อการกัดกร่อน หรือทำวัสดุอื่นที่ไม่ใช่เหล็ก เช่น พลาสติกหรือไม้

สีของตู้จัดเก็บสารเคมี

สีของตู้มีความสำคัญในการระบุประเภทและความอันตรายของสารเคมีที่จัดเก็บอยู่ภายใน เพื่อให้สามารถคาดเดาประเภทสารเคมีภายในตู้ได้อย่างรวดเร็วในเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยทั่วไปจะใช้มาตรฐานสีตามที่องค์กรความปลอดภัยระดับสากลกำหนด ดังนี้

1. สีเหลือง (Yellow) หมายถึง สารเคมีหรือของเหลวไวไฟ
2. สีแดง (Red) หมายถึง สารไวไฟที่สามารถระเบิดได้
3. สีฟ้า (Blue) หมายถึง สารที่เป็นฤทธิ์กัดกร่อน
4. สีเขียว (Green) หมายถึง ยาฆ่าแมลงและวัชพืช

นอกจากนี้ การติดป้ายสัญลักษณ์ เครื่องหมายเตือนภัย และข้อความบนตู้ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงาน การใช้สีและเครื่องหมายที่ถูกต้องจะทำให้สามารถระบุประเภทสารเคมีได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ทั้งนี้วัสดุของตู้แต่ละสีจะเป็นวัสดุเดียวกัน สเป็คเดียวกัน (ยกเว้นสีฟ้า จะมีเคลือบสารป้องกันการกัดกร่อน)

ตู้จัดเก็บสารเคมีมีความจำเป็นอย่างไร?

อย่างยิ่งในสถานที่ทำงานหรือห้องปฏิบัติการที่มีการใช้สารเคมี โดยมีเหตุผลความจำเป็นที่สำคัญดังนี้

1. ความปลอดภัย
   ตู้จัดเก็บสารเคมีช่วยป้องกันอุบัติเหตุและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสหรือรั่วไหลของสารเคมี เช่น การระเบิด ไฟไหม้ การหายใจเอาสารพิษเข้าไป ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ปฏิบัติงาน

2. ควบคุมสภาพแวดล้อม
   ตู้บางประเภทสามารถควบคุมสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และการระบายอากาศ เพื่อเก็บรักษาสารเคมีให้คงคุณสมบัติและความเสถียร

3. แยกประเภทสารเคมี
   สารเคมีบางชนิดไม่สามารถจัดเก็บรวมกันได้ ตู้จัดเก็บจึงจำเป็นต้องแยกประเภทสารเคมีออกจากกันเพื่อป้องกันปฏิกิริยาที่อันตราย

4. ป้องกันการปนเปื้อน
   ตู้จัดเก็บสารเคมีช่วยป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีกับสิ่งแวดล้อมหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายได้

5. ควบคุมการเข้าถึง
   ตู้จัดเก็บสารเคมีช่วยควบคุมการเข้าถึงสารเคมีอันตรายให้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เช่นมีช่องสำหรับล็อคด้วยแม่กุญแจ ช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้งานอย่างไม่ถูกวิธี

6. กฎระเบียบและมาตรฐาน
   องค์กรต่างๆ มีกฎระเบียบและมาตรฐานในการจัดเก็บสารเคมีอย่างปลอดภัย ตู้จัดเก็บทำให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ เหล่านี้

การมีตู้จัดเก็บสารเคมีที่เหมาะสมตามประเภทสารเคมีจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างความปลอดภัย สุขอนามัย และการทำงานที่มีประสิทธิภาพในสถานที่ทำงานทุกแห่งที่ใช้สารเคมี

ความสำคัญของตู้เก็บสารเคมีในห้องแลป

ในห้องแลปหรือสถานที่ทำงานที่มีการใช้สารเคมีต่าง ๆ การจัดการกับสารเคมีอย่างปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในมาตรการที่สำคัญคือการจัดเก็บสารเคมีอย่างถูกต้องและปลอดภัยผ่านการใช้งานตู้เก็บสารเคมี ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการเก็บรักษาสารเคมีเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการรั่วไหล การเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ หรือการเกิดอุบัติเหตุที่อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อทรัพย์สิน ชีวิต และสิ่งแวดล้อม

ความสำคัญของการใช้ตู้เก็บสารเคมี

การเก็บสารเคมีในตู้เก็บที่ออกแบบมาเฉพาะมีความสำคัญเนื่องจากสารเคมีบางชนิดสามารถเป็นอันตรายต่อผู้ที่ทำงานในห้องแลปได้หากไม่มีการจัดเก็บอย่างถูกวิธี การรั่วไหลหรือการปลดปล่อยสารเคมีสู่สภาพแวดล้อมโดยไม่ได้ตั้งใจ อาจนำไปสู่การสัมผัสสารที่เป็นพิษ การระเบิด หรือการเกิดเพลิงไหม้ได้ การใช้ตู้เก็บสารเคมีจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายเหล่านี้

ตู้เก็บสารเคมีที่มีมาตรฐานจะถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ทนทานต่อการกัดกร่อน สามารถป้องกันการระเบิด และมีระบบระบายอากาศที่ดี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ตู้เก็บสารเคมีจะช่วยจัดเรียงสารเคมีให้อยู่ในลักษณะที่เป็นระเบียบ และแยกสารเคมีที่มีปฏิกิริยากันได้ออกจากกัน เพื่อลดโอกาสในการเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์

มาตรการความปลอดภัยในการจัดเก็บสารเคมี

การจัดเก็บสารเคมีในห้องแลปไม่ได้เป็นเพียงการเก็บรักษาให้อยู่ในที่ปลอดภัย แต่ยังเป็นการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยที่กำหนดโดยองค์กรต่าง ๆ เช่น OSHA (Occupational Safety and Health Administration) และ NFPA (National Fire Protection Association) ที่มีการกำหนดมาตรฐานการจัดเก็บสารเคมีไว้อย่างเข้มงวด การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้อาจนำไปสู่การถูกปรับหรือแม้กระทั่งการถูกปิดห้องแลป

ตัวอย่างเช่น สารเคมีที่ไวไฟจะต้องถูกเก็บในตู้เก็บสารเคมีที่มีคุณสมบัติป้องกันการติดไฟ และต้องวางไว้ห่างจากแหล่งที่สามารถทำให้เกิดประกายไฟได้ สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนหรือเป็นกรดเข้มข้นควรถูกเก็บในตู้ที่ทำจากวัสดุที่สามารถทนต่อการกัดกร่อนได้ดี และควรจัดเก็บแยกจากสารเคมีที่อาจเกิดปฏิกิริยากับสารกรดหรือสารกัดกร่อนเหล่านั้น

นอกจากการใช้ตู้เก็บสารเคมีที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแล้ว ผู้ที่ทำงานในห้องแลปยังต้องได้รับการอบรมเรื่องการจัดเก็บและการจัดการกับสารเคมีอย่างถูกต้อง เช่น การอ่านและทำความเข้าใจเอกสารข้อมูลความปลอดภัย (Safety Data Sheet หรือ SDS) เพื่อรู้ถึงคุณสมบัติและวิธีจัดเก็บสารเคมีแต่ละชนิด รวมถึงการปฏิบัติตัวในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การรั่วไหลของสารเคมี หรือการเกิดไฟไหม้

ข้อควรระวังและปัจจัยในการเลือกตู้เก็บสารเคมี

การเลือกตู้เก็บสารเคมีที่เหมาะสมกับลักษณะของสารเคมีที่ใช้งานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เนื่องจากสารเคมีแต่ละประเภทมีความเสี่ยงและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกตู้ที่สามารถทนต่อสารเคมีและตอบสนองต่อความต้องการด้านความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ ตู้เก็บสารเคมียังควรถูกวางในสถานที่ที่เข้าถึงได้ง่ายในกรณีฉุกเฉิน และควรมีป้ายหรือสัญลักษณ์ชัดเจนที่บ่งบอกถึงประเภทของสารเคมีที่จัดเก็บอยู่ในตู้

การจัดพื้นที่วางตู้เก็บสารเคมี

สำหรับคำแนะนำเรื่องสถานที่ในการวางตู้จัดเก็บสารเคมีทาง justrite แนะนำไว้ตามนี้ (แนนช่วยปรับคำแปลก่อนส่งให้ลูกค้าอีกทีนะครับ)

สถานที่วางตู้เก็บความปลอดภัยในอุตสาหกรรม

เมื่อคุณเป็นเจ้าของสถานที่ คุณมีความรับผิดชอบในการปกป้องพนักงานจากอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ ดังนั้นจึงสำคัญที่จะต้องมีตู้เก็บความปลอดภัยที่กันไฟได้ในสถานที่ทำงาน ตู้เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวที่ติดไฟและเผาไหม้ได้สูงเกินไปจนเกิดการติดไฟเองได้ เพื่อให้การวางตู้เก็บความปลอดภัยถูกต้อง ควรเก็บให้ห่างจากแผงวงจรไฟฟ้าและปลั๊กไฟ ไม่ควรมีการเชื่อมหรือขัดใกล้ ๆ และควรตั้งให้ห่างจากบริเวณสูบบุหรี่

เคล็ดลับในการวางตู้เก็บความปลอดภัยที่ติดไฟได้ ตำแหน่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ควรพิจารณาเมื่อจัดเตรียมตู้เก็บความปลอดภัยที่ติดไฟได้ในสถานที่ อย่าวางในเส้นทางที่ใช้เป็นทางออกฉุกเฉิน เพราะหากเกิดไฟไหม้ที่ตู้หรือใกล้เคียง อาจทำให้พนักงานหนีออกไปได้ยากและเสี่ยงต่อชีวิตของพวกเขา

ตู้เก็บความปลอดภัยไม่ควรวางไว้ใต้บันไดเช่นกัน หลักการง่าย ๆ คือควรวางตู้ในพื้นที่ที่มีโอกาสน้อยที่สุดที่จะส่งผลต่อการอพยพฉุกเฉิน

แม้ว่าจะสะดวกในการวางตู้บนพาเลทเพราะนั่นอาจเป็นวิธีที่จัดส่งมาที่สถานที่ของคุณ แต่การทำเช่นนี้ละเมิดข้อกำหนดของ OSHA และคำแนะนำในการติดตั้งของผู้ผลิต การวางตู้เก็บความปลอดภัยที่ติดไฟได้บนพาเลทไม้เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ หากไม้ติดไฟขึ้นมา ตู้อาจล้มลงและทำให้สารเคมีที่ติดไฟได้โดนเปลวไฟ อีกทั้งการวางบนพาเลทยังเพิ่มความสูงของตู้ ซึ่งอาจทำให้อุณหภูมิภายในตู้เพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่ทดสอบไฟของผลิตภัณฑ์

ตู้เก็บความปลอดภัยที่ติดไฟได้ควรวางบนพื้นเรียบ โดยปกติพาเลทจะไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้พาเลทยังอาจขัดขวางไฟฟ้าสถิตย์จากตู้ที่จะถ่ายลงไปยังพื้นได้

บทความที่เกี่ยวข้อง: เคล็ดลับและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการใช้งานตู้เก็บความปลอดภัยที่ติดไฟได้

ตู้เก็บความปลอดภัยที่ติดไฟได้ไม่ได้แค่ป้องกันของที่อยู่ภายในจากไฟไหม้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้พนักงานมีเวลาออกจากบริเวณก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายลง ควรเก็บตู้ห่างจากแหล่งที่อาจทำให้เกิดการจุดติดไฟ เช่น แผงวงจรไฟฟ้าและปลั๊กไฟ นอกจากนี้ต้องตรวจสอบว่าไม่มีการเชื่อมหรือขัดใกล้ ๆ ตู้เก็บความปลอดภัย และพื้นที่สูบบุหรี่ควรอยู่ห่างจากบริเวณที่ใช้หรือเก็บของเหลวหรือสารเคมีที่ติดไฟได้