จำหน่าย อุปกรณ์เซฟตี้

เหตุระเบิดและไฟไหม้โรงงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

ข่าว ที่น่าสะเทือนใจจากเหตุระเบิดและไฟไหม้โรงงานบีเอสทีอิลาสโตเมอร์ส จำกัด เครือบริษัทกรุงเทพ ซินธิติกส์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 12 รายและได้รับบาดเจ็บกว่า 141 ราย ความเสียหายเบื้องต้น กว่า 2,000 ล้านบาท

เรียก ว่าได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ระยอง และใกล้เคียง เนื่องจากหลังเหตุระเบิด ได้เกิดการรั่วไหลของสารเคมีอันตราย ฟุ้งกระจายเป็นบริเวณกว้าง จนต้องอพยพผู้คนทั้งในและโดยรอบโรงงานออกจากพื้นที่เร่งด่วน 

จากคำบอกเล่าของคนงานที่เกิดเหตุกล่าวว่าเมื่อ เวลาประมาณ บ่าย 3 โมง ของวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่บรรดาคนงานหลายร้อยคน ของบริษัทบีเอสที โรงงานผลิตยางสังเคราะห์ ได้ทำงานเข้ากะกันตามปกติ อยู่ระหว่างหยุดสายการผลิต ล้างทำความสะอาด เพื่อทำการเปลี่ยนชนิดผลิตภัณฑ์

ทัน ใดนั้น ได้เกิดมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุ จากนั้นก็มีเสียงคนงานตระโกนให้วิ่งหนีออกมา แต่วิ่งไปได้ไม่กี่เมตร ก็เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว 2 ครั้ง จนตัวเองล้มฟุบลง พร้อมกับเสียงกรีดร้องของเพื่อนคนงาน ตามมาด้วยเสียงระเบิดอีกหลายครั้ง ยอมรับทำงานมากว่า 7 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างนี้มาก่อน

สิ้น เสียงระเบิด ก็ได้เกิดเพลิงไหม้ตัวโรงงานอย่างรุนแรง กลุ่มควันไฟสีดำทะมึน พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มองเห็นได้ไกลรัศมีหลายกิโลเมตร พร้อมกับกลิ่นสารเคมีฟุ้งกระจายไปทั่ว

ความโกลาหลไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด แต่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดกับนิคมฯ มากกว่า 4 ชุมชน นับหมื่นคน ก็ตกใจเสียขวัญไม่แพ้กัน ต่างวิ่งหนีตายกันอลหม่าน

สาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากสารโทลูอีน  ซึ่งเป็นสารละลายอินทรีย์วัตถุไวไฟประเภท 3 ซึ่งใช้กันมากตามโรงงานต่างๆ เพราะมีคุณสมบัติกำจัดจุรินทรีย์ จึงนิยมนำมาล้างถังสารเคมีแต่หากโดนประกายไฟจะติดไฟรวดเร็วและระเบิดได้ ฉะนั้นเวลาซ่อมบำรุงต้องใช้�ช่างที่เชี่ยวชาญและระวังเป็นพิเศษ และเรื่องมลพิษปนเปื้อนแม้สารโทลูอีน จะไม่เสี่ยงก่อโรคมะเร็ง แต่หากสูดดมในปริมาณมากเกินค่ามาตรฐาน 50 พีเอ็ม ก็เสี่ยงต่อชีวิตได้ แต่ครั้งนี้โชคดี ที่ผลตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณจุดเกิดเหตุและรอบๆนิคมฯพบว่า สารโทลูอีนต่ำกว่าค่ามาตรฐาน เพียง 5 พีเอ็มเท่านั้น เนื่องจากเมื่อเกิดการเผาไหม้ จะแปรสภาพเป็นคาร์บอนไดออกไซต์ ระเหยลอยขึ้นฟ้า และเจือจางในที่สุด